เทคนิคการถ่ายภาพแบบมาโคร

Macro คืออะไร ?!?!
มาโคร คือ รูปแบบหนึ่งของการถ่ายภาพ โดยลักษณะการถ่ายภาพจะเป็นการถ่ายวัตถุขนาดเล็กในระยะใกล้ ๆ ถึงใกล้มาก ซึ่งจะทำให้วัตถุที่ถูกถ่ายดูมีขนาดใหญ่ขึ้น และภาพที่ได้ก็จะมีลักษณะชัดตื้น (วัตถุด้านหน้าที่เราโฟกัสจะชัด ส่วนด้านหลังจะฟุ้งและเบลอ หรือเรียกว่า หน้าชัดหลังเบลอ) นั่นเอง
แล้วทำไมต้องมาโคร?
การถ่ายมาโครจะขยายวัตถุขนาดเล็กให้ใหญ่ขึ้น จนเราสามารถมองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น แมลง , ดอกไม้ หรือวัตถุอื่น ๆ ซึ่งการถ่ายแบบมาโครจะทำให้การถ่ายภาพมีความสนุกสนาน และได้ภาพที่มีความแปลกตามากยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพแบบมาโครต้องทำยังไงบ้างล่ะ?
1.เริ่มที่ปรับกล้องไปที่โหมดการถ่ายภาพมาโคร โดยมองหาปุ่มที่มีสัญลักษณ์เป็นรูป "ดอกไม้"
หรือในกล้องคอมแพ็คปกติจะมีปุ่มเป็นเมนูลัดเข้าไปได้เลย
2.จัดองค์ประกอบของภาพโดยเอากล้องของเราไปจับโฟกัสกับวัตถุที่จะถ่ายให้ได้ใกล้ที่สุด (โดยที่กล้องไม่มีการซูม)
3.เลือกจุดโฟกัสให้ตรงกับจุดที่ต้องการ แล้วกดชัตเตอร์หนึ่งครั้งเพื่อให้กล้องโฟกัส พอชัดแล้วก็กดชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพสวย ๆ เก็บไว้ในความทรงจำได้เลย
2.จัดองค์ประกอบของภาพโดยเอากล้องของเราไปจับโฟกัสกับวัตถุที่จะถ่ายให้ได้ใกล้ที่สุด (โดยที่กล้องไม่มีการซูม)
3.เลือกจุดโฟกัสให้ตรงกับจุดที่ต้องการ แล้วกดชัตเตอร์หนึ่งครั้งเพื่อให้กล้องโฟกัส พอชัดแล้วก็กดชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพสวย ๆ เก็บไว้ในความทรงจำได้เลย

ยกตัวอย่างภาพนี้ ใช้ค่า f/1.8 เพราะพี่ต้องการเห็นตัวผึ้งชัดและตัวดอกไม้ฟุ้งๆ เบลอๆ
**เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ **
รูรับแสง (ค่า F) โดยหลักพื้นฐานของ f/stop คือ รูรับแสงยิ่งกว้าง (เลขน้อย f/1.8, f/2.0, f/2.8 ..) จะได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอ
รูรับแสงแคบ (เลขมาก f/16, f/22 …) จะได้ภาพหน้าชัดหลังชัด แต่หลักการถ่ายมาโครนี้ไม่มีกฏตายตัวนะ ขึ้นอยู่ความชอบและความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ เลยจ้า

ขอบคุณที่ติดตาม
ขอบคุณ : http://www.dek-d.com/article/32643/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น